นั่งชิลล์กับอาหารอร่อย ย่านเพลินจิต @Café Jardin


 
สวัสดีค่า วันนี้…มีนัดสำคัญกับเพื่อนซี้แถวเพลินจิต กว่าจะเสร็จสิ้นภารกิจก็ปาเข้าไปตั้งบ่ายสอง อารมณ์แบบหิวมาก ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอาหารตกถึงท้องเลย นอกจากกาแฟดำ 1 แก้ว ด้วยความที่เราเหนื่อย เราเพลีย อยากนั่งพัก นั่งชิลล์ เลยจูงมือเพื่อนซี้พากันไปทานอาหารที่ร้าน Café Jardin เพราะติดใจเมื่อคราวก่อนมาทานอาหารเช้าที่นี่ แพนเค้ก อร่อยมาก คราวนี้เลยอยากไปลองเมนูอาหารคาวดูบ้าง ว่าแล้วไม่รอช้าสองสาวรีบพากันเดินจ้ำอ้าว จาก BTS เพลินจิต เดินไปไม่ถึง 500 เมตร ก็ถึงที่หมาย

Café Jardin ตั้งอยู่ที่ชั้นล่างสุดของโรงแรมศิวาเทล บนถนนวิทยุ กรุงเทพฯ นี่เองจ้า พอมาถึงร้านก็หายเหนื่อยเลยค๊า บรรยากาศเป็นกันเองที่คุ้นเคย พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใส นี่แหล๊ะที่นั่งชิลล์ นั่งพักของ ตุ๊กกี้ กับเพื่อนของชั้น ที่นี่เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้า – 4 ทุ่ม ว่าแล้วไม่รอช้าเริ่มสั่งเลยละกัน สุดท้ายก็เผลอสั่งไป 5 อย่าง หึ ๆ ทานกัน 2 คนจะหมดมั้ย

จานแรกมาแล้วค่ะ ออร์เดิฟเบาๆ ด้วย  

1. สลัดโรลแซลมอนแซ่บ  (280 บาท) คะแนน 10/10

พอพนักงานเสิร์ฟวางบนโต๊ะ หือ! รู้สึกน้ำลายหกมาก ด้วยการเสิร์ฟใส่ช้อนเป็นคำ ๆ บนถาดไม้ สีส้มสดของแซลมอนกับน้ำยำที่คอยกวักมือเรียกให้ลิ้มลอง ซัดเข้าไปเลยค่ะเต็มคำ ประสบการณ์กินแบบใหม่ที่ถึงใจ น้ำยำแบบซีฟู๊ดผสมวาซาบิเบา ๆ เพิ่มความจี๊ดจ๊าด แซ่บมากเลยค่ะจานนี้ ปลาแซลมอนก็หวานสดอร่อยลงตัวมาก ๆ เผลอแปปเดียวเกลี้ยงทุกช้อน อร่อยทุกคำ และเพื่อความจี๊ดจ๊าดต่อเนื่องด้วยเมนูที่สอง 

2. หมูคำหวานวาซาบิ  (170 บาท)  คะแนน 9/10

หมูสไลด์พันกับกะหล่ำปลีฝอย เสริฟมาบนจานสีดำตัดกับเนื้อหมู ดึงดูดให้ลิ้มลอง เห็นตอนแรกถึงกับตกใจเล็กน้อย เพราะดูคำใหญ่ เราก็เลยตักมาแบ่งทานที่จาน อืม! หมูนุ่มใช้ได้น้ำยำเหมือนแซลมอนเมื่อสักครู่ แต่จานนี้จะผสมวาซาบิมากกว่า ความจี๊ดจ๊าดเลยคูณสองเจ้าค่ะ ยิ่งทานคู่กับกระเทียมฝานบาง ขึ้นจมูกปรี๊ดเลย ต้องตัดรสชาติด้วยมะเขือเทศเชอร์รี่รสหวานกรอบ ชุ่มฉ่ำน้ำ คือดีงามลงตัวอีกจาน ถ้าใครชอบความจัดจ้านต้องยกให้จานนี้เลยค่ะ ห้ามพลาด! 

เรามาพักจานแซ่บ ๆ ด้วยจานซอฟท์ลงกว่านี้กันดีกว่าค่ะ จานนี้ได้ข่าวว่าเป็นทีเด็ดของร้านเลยนั่นก็คือ

3. สปาเก็ตตี้หมูกรอบผัดพริกเกลือ  (180 บาท)  คะแนน 9/10

อือหือ! สะตั้นไป 10 วิ คือ ดูน่ากินสุด ๆ และเยอะมาก (นึกในใจ เชฟแอบทำพิเศษให้เรา 2 คนมั้ยเนี่ย) ดูหมูกรอบนั่นสิ มีความชุ่มฉ่ำน่ากัดกินเป็นที่สุด ด้วยเส้นที่เหนียวนุ่มกำลังดี ผัดกับซอสรสเผ็ดนิด ๆ เค็มหน่อย ๆ ทานพร้อมกับหมูกรอบ หนังบางกรอบ กร๊วบ อร่อยมาก แต่…ยังไม่ทันหมดจานก็ตามมาด้วยเมนู 

4. สปาเก็ตตี้ปลาสลิดอินทรีย์  (220 บาท)  คะแนน 10/10

เราถามพนักงานเสิร์ฟว่า ทำไมต้องมีคำว่าอินทรีย์ด้วย น้องพนักงานก็ยินดีให้คำตอบด้วยวาจาสุภาพนอบน้อมมาก น้องบอกว่า

“เนื่องจากวัตถุดิบที่นำมาปรุงเป็นปลาที่เลี้ยงด้วยวิธีธรรมชาติคือการไม่ใช้ปุ๋ยเคมี ไม่ใช้สารเร่งการเจริญเติบโตซึ่งทางโรงแรมเราจะเน้นวัตถุดิบที่ปราศจากสารเคมี เพราะเราใส่ใจในสุขภาพที่ดีของลูกค้าเป็นสำคัญครับ” 

เราได้ยินก็รู้สึกดี สบายใจ ทานต่อได้ไร้กังวล สปาเก็ตตี้ปลาสลิดจานนี้ให้อารมณ์เหมือนสปาเก็ตตี้ผัดพริกแห้งที่เคยกิน แต่จะมีความพิเศษตรงที่ความนัวจากปลาอินทรีย์ คือจะออกมัน ๆ เค็มนิด ๆ ทานตัดกับพริกแห้ง กระเทียม และมีความกรุบกรอบจากปลา เคี้ยวสนุก เส้นก็เหนียวนุ่มสุกกำลังพอดี ระหว่างทานก็คิดว่าถ้าเป็นสปาเก็ตตี้เส้นเล็กกว่านี้รสชาติจะเป็นยังไงนะ คิดไป คิดมา เผลอแปปเดียวเกลี้ยงจานอีกเช่นกัน และก็จบจานสุดท้าย จานที่…

5. น้ำตกคอหมูอารมณ์ดีไร้มัน (นึกในใจ ถ้าทานแล้วอารมณ์ไม่ดี มีเคืองนะจ๊ะ) (180 บาท)  คะแนน 8/10

สัมผัสแรกคือหมูนุ่มกำลังดีทั้ง ๆ ที่ไม่มีมันเลย หมูมีกลิ่นรมควันนิดๆ รสหวานนำตามด้วยรสเปรี้ยว และเผ็ดเบา ๆ หอมข้าวคั่วอ่อน ๆ จานนี้ชอบน้อยสุด เพราะเรารู้สึกว่าควรจะแซ่บกว่านี้ แต่ก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าเป็นเพราะอิ่มรึเปล่า

ทานเสร็จก็นั่งอืดกัน 2 คนเพื่อนซี้ ฟังเพลงเบา ๆ เคลิ้ม ๆ เผลอจะหลับ แต่ก็ยังมีท้องสำหรับของหวานเสมอ ๆ ซึ่ง Signature ของทางร้านนั่นก็คือ Blueberry Cheese Tart และก็สั่งชาเขียวมาทานแบ่งกันสองคน

คำแรกที่ตักเข้าปากคือเนื้อชีสเค้ก นุ่ม ละมุนลิ้นมาก หวานกำลังพอดี เพิ่มเท็กเจอร์ด้วยบลูเบอร์รี่กรุบกรอบ และตัวคุ๊กกี้ที่อยู่ด้านล่างไม่ร่วน ไม่เหนียวจนเกินไป อร่อยฟินมาก ทานคู่กับชาเขียวปั่น คือดีงามสุด ๆ ชาเขียวที่นี่กลิ่นหอมมาก รสชาติเข้ม แต่ไม่ขมนะจ๊ะ ไม่หวานเกินไป บอกเลยเซ็ตนี้ห้ามพลาด อร่อยจนลืมอิ่มไปเลย รับคะแนน 10/10 ไปเลยค่ะสำหรับเซ็ตนี้

นอกจากเมนูที่ ตุ๊กกี้ กับเพื่อน ทานกันไปนั้น ยังมีเมนูมังสวิรัติอินทรีย์สไตล์ด้วยนะคะ ไม่ว่าจะเป็น ข้าวออร์แกนิคกะเพราเต้าหู้ สลัดเต้าหู้เห็ดผัดดอกเกลือ ก๋วยเตี๋ยวคั่วไข่อินทรีย์ และอีกมากมาย สายมังอย่าลืมมาลองชิมกันนะคะ

สรุป     ทานกัน 2 คน ราคาประมาณ 1,500 บาท เราถือว่าโอเคเลยหล่ะกับคุณภาพของอาหาร รสชาติของอาหาร การบริการ ถ้าใครมาแถวนี้อย่าลืมมาแวะทานที่ Café Jardin กันนะคะ ส่วนวันนี้ ขอลาไปนอนอืดที่บ้านกันก่อนค่ะ บ๊ายบาย

ชื่อร้าน : Café Jardin

สถานที่ตั้ง : ชั้น 1 ของโรงแรมศิวาเทล ถ.วิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ

เบอร์โทรศัพท์ : +66 2 309 5077

เวลาบริการ : ทุกวัน 06.00 – 22.00 น.

ที่จอดรถ : ลานจอดรถของโรงแรม

ประเภทอาหาร : อาหารนานาชาติฟิวชั่น เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม

เว็บไซต์ : https://www.sivatelbangkok.com/jardin.php








ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Herbalist Siam เซรั่มหน้าเด็ก จากข้าวหอมมะลิแดง

รีวิว Puricas Advanced เจลลดรอยดราก้อนบลัดสูตรใหม่ เข้นข้นกว่าเดิม

มั่นใจสุดวงแขน ด้วย ริเอ็น เพอร์ฟูม ไวท์ ดีโอ